1.
ดาวเคราะห์ใดต่อไปนี้อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าดวงอื่น
1.
ดาวพฤหัสบดี
2. ดาวศุกร์
3.
ดาวเสาร์
4. ดาวเนปจูน
2.ดาวพฤหัสบดีมีองค์ประกอบหลักเป็นอะไร
1.
เหล็ก
2. ไฮโดรเจนและฮีเลียม
3.
หิน
4. แอมโมเนีย
3..ตามวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ในช่วงท้ายที่สุดจะเป็นอะไร
1.
ดาวแคระดำ
2. ดาวแคระขาว
3.
หลุมดำ
4. ดาวนิวตรอน
4.ตามหลักการจัดอันดับความสว่างของดาว ดาวในข้อใดมีความสว่างมากที่สุด
1.
ดาว A มีอันดับความสว่าง
6
2. ดาว
B มีอันดับความสว่าง 1
3.
ดาว C มีอันดับความสว่าง
0
4. ดาว
D มีอันดับความสว่าง -2
5.คำว่า 1 ปีแสง
หมายถึงอะไร
1.
ระยะทางที่แสงใช้เวลาเดินทาง 1
ปี
2. ระยะทางจากดวงอาทิตย์ถึงโลก
3.
เวลาที่แสงเดินทางจากดวงอาทิตย์ถึงโลก
4. หน่วยของเวลาแบบหนึ่ง
6.สิ่งที่เกิดขึ้นกับดาวฤกษ์ทุกดวงเมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายเป็นตามข้อใด
1.
ความหนาแน่นเพิ่มขึ้น
2. การระเบิดซูเปอร์โนวา
3.
การกลายสภาพเป็นดาวนิวตรอน
4. มวลสลายไปหมด
7.ดาวฤกษ์ในข้อใด
ที่มีอุณหภูมิของผิวดาวต่ำที่สุด
1.
มีแสงสีน้ำเงิน
2. มีแสงสีแดง
3.
มีแสงสีเหลือง
4. มีแสงสีส้ม
8.ดาวศุกร์เมื่อสว่างน้อยที่สุดมีความสว่าง -3.5
ดาวซีรีอุสมีอันดับความสว่าง -1.5
ดาวศุกร์มีความสว่างมากกว่าดาวซีรีอุสกี่เท่า
1.
2.5
2. 3.0
3.
6.25
4. 15.6
9.ในคืนที่ท้องฟ้าแจ่มใส
เราสามารถมองเห็นแกแลกซีทางช้างเผือกซึ่งพาดผ่านเป็นแถบยาวขนาดความกว้าง
15 องศา ถ้าต้องการประมาณเวลาที่แสงจากดาวที่ขอบข้างหนึ่งของทางช้างเผือกไปถึงอีกข้างหนึ่ง
ต้องใช้ข้อมูลจากข้อใดต่อไปนี้
1.
ระยะทางจากดวงอาทิตย์ถึงดาวที่ขอบนั้น
2. ความสว่างของดาวที่ขอบ
3.
อัตราการหมุนของแกแลกซี
4. ดัชนีหักเหของแสงในอวกาศ
10.
ความพรุนของหินที่เกิดขึ้นภายหลังภูเขาไฟระเบิดขึ้นอยู่กับปัจจัยใด
1.
รูปร่างและความสูงของภูเขาไฟ
2. ตำแหน่งของรอยแยกบนพื้น
3.
อัตราการเย็นตัวของลาวา
4. องค์ประกอบทางเคมีของแมกมา
เฉลย
1. เฉลยข้อ 2
เหตุผล ดาวเคราะห์วงในมี 4 ดวง
คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์
โลก และ ดาวอังคาร ส่วนดาวเคราะห์วงนอกมี 4 ดวง คือ ดาวพฤหัสบดี
, ดาวเสาร์ , ดาวยูเรนัส
และดาวเนปจูน ดังนั้นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากสุดจะเรียงจากดาวเคราะห์
คือ ดาวพุธ และดาวศุกร์
ตามลำดับ แต่ในข้อสอบไม่มีดาวพุธ
2. เฉลยข้อ 2
เหตุผล ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ชั้นนอก หรือดาวเคราะห์ยักษ์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ องค์ประกอบหลักเป็นไฮโดรเจน
และฮีเลียม มีสภาพแวดล้อมเย็นกว่า
3. เฉลยข้อ 1
เหตุผล วิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย จะเกิดแรงโน้มถ่วงเนื่องจากมวลดวงอาทิตย์สูงกว่าแรงดัน
เพราะธาตุไฮโดรเจนเหลือน้อยส่งผลให้แกนกลางมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิม
100 ล้านองศาเคลวิน และทำให้ดวงอาทิตย์ขยายใหญ่ขึ้นกว่า เดิมเป็น 100
เท่า ผิวด้านนอกขยายตัวอุณหภูมิลดลง
สีจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ดาวยักษ์แดง และค่อยๆ เป็นดาวแคระขาว
เพราะอุณหภูมิและความดันภายในลดลง จนช่วงสุดท้ายกลายเป็นดาวแคระดำ
4. เฉลยข้อ 4
เหตุผล การจัดอันดับค่าความสว่างของดาว ถ้าอันดับความสว่าง 6 เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างริบหรี่ที่สุด
ส่วนอันดับความสว่าง 1 และ 0 จะสว่างมากกว่าอันดับความสว่าง
6 ส่วนอันดับความสว่างเป็นลบ
(-) จะยิ่งมีความสว่างมากขึ้น เช่น
อันดับความสว่าง -2 ก็คือดาวพฤหัสบดีสว่างมาก
5. เฉลยข้อ 1
เหตุผล 1 ปีแสง หมายถึง
ระยะทางที่แสงใช้เวลาเดินทางเป็นเวลา 1
ปี หรือมีค่าเท่ากับ 9.5 ล้านล้านกิโลเมตร
6. เฉลยข้อ 3
เหตุผล วาระสุดท้ายของดาวฤกษ์ที่มีมวลมากๆ จะกลายเป็นหลุมดำ
วาระสุดท้ายของดาวฤกษ์ที่มีมวลปานกลาง จะกลายเป็นดาวนิวตรอน
วาระสุดท้ายของดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย จะกลายเป็นดาวแคระดำ
7. เฉลยข้อ 4
เหตุผล แสดงสีและอุณหภูมิของดาวฤกษ์ชนิดต่าง
ชนิด
|
สีของดาว
|
อุณหภูมิผิว (เคลวิน)
|
ตัวอย่างดาวฤกษ์
|
O
B A F G K M |
น้ำเงิน – ขาว
ขาวน้ำเงิน
ขาว
เหลือง – ขาว
เหลือง
ส้ม
ส้มแดง
|
35,000
25,000
– 12,000
10,000
– 8,000
7,500
– 6,000
6,000
– 4,200
5,000
– 3,000
3,200
– 3,000
|
ดาวเซตานายพรานในกลุ่มดาวนายพราน
ดาวอะเคอร์นาร์ในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือ
ดาวหางหงส์ในกลุ่มดาวหงส์
ดาวโปรซิออนในกลุ่มดาวสุนัขเล็ก
ดวงอาทิตย์
ดาวดวงแก้วในกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์
ดาวปาริชาตในกลุ่มดาวแมงป่อง
|
8. เฉลยข้อ 3
เหตุผล ดาวศุกร์มีอันดับความสว่าง -3.5 ดาวซีรีอุสอันดับความสว่าง
-1.5
ดังนั้น ดาวทั้งสองมีอันดับความสว่างต่างกัน
= (-3.5) – (-1.5)
=
2
อันดับค่าความสว่างต่างกัน 1 ค่าความสว่างต่างกัน
= (2.5)1
เท่า
=
(2.5)2 เท่า
=
6.25 เท่า
9. เฉลยข้อ 1
เหตุผล ระบบสุริยะมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และดวงอาทิตย์อยู่ห่างจุดกึ่งกลางของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก
30,000 ปีแสง
จึงทำให้รู้ระยะทางขอบข้างหนึ่งของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกไปยังขอบข้างหนึ่งได้
จึงสามารถประมาณเวลาที่แสงจากดาวที่ขอบข้างหนึ่งของกาแล็กซี่ทางช้างเผือกไปถึงอีกข้างหนึ่งได้
10. เฉลยข้อ 3
เหตุผล ความพรุนของหินที่เกิดขึ้นหลังภูเขาไฟระเบิด เกิดเนื่องจากการเย็นตัวและการแข็ง ตัวอย่างรวดเร็วของลาวา
ทำให้เต็มไปด้วยฟองก๊าซ จึงมีน้ำหนักเบาจนบางชนิดสามารถลอยน้ำได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น